แนวโน้มการปฏิรูปคลังสินค้าสู่ยุคดิจิทัล

ทีมวิจัยกรุงศรีฯ* ประเมินความต้องการใช้ พื้นที่คลังสินค้าทั่วไปปี 2566 จะอยู่ที่ 5.8 ล้านตารางเมตร เพิ่มขึ้น 7.0% จากปี 2565 ขณะที่อุปทานรวมอยู่ที่ 6.7 ล้านตร.ม. เพิ่มขึ้น 6.8% YoY และอัตราการเช่าพื้นที่อยู่ที่ระดับ 86.0% โดยในปี 2567-2568 คาดว่าความต้องการเช่าพื้นที่คลังสินค้าโดยรวมจะเติบโตได้ต่อเนื่อง

ตามทิศทางเศรษฐกิจไทย ที่มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป คาดการณ์ว่า ผู้ประกอบการคลังสินค้า มีแนวโน้มที่จะหันมาให้บริการคลังสินค้า 3 แบบด้วยกัน คือ…

  1. แบบ Built-to-Suit คลังสินค้าสมัยใหม่ที่สร้างตามคำสั่งลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสัญญาเช่าระยะยาวและมีการปรับขึ้นค่าเช่าได้ตามช่วงเวลา  
  2. แบบ Ready built warehouses คลังสินค้าสมัยใหม่ที่ตอบสนองความต้องการเช่าแบบเร่งด่วนได้ทันที
  3. แบบ Fulfillment Center ที่เป็นคลังสินค้าแบบพร้อมส่ง พร้อมป้อนให้ผู้ประกอบการที่ต้องการขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่ม B2B2C
แนวโน้มอุตสาหกรรมคลังสินค้า ที่จะกล่าวถึงในบทความนี้ แบ่งเป็น 2 ประเด็นได้แก่...

ความต้องการเช่าพื้นที่คลังสินค้า ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5.6% ต่อปี 

ปัจจุบันและในอนาคตอันใกล้ มีผู้ประกอบการจำนวนมากขึ้นที่ต้องการเช่าพื้นที่คลังสินค้าเพื่อใช้ในการเก็บรักษาสินค้า หรือใช้เป็นศูนย์กระจายสินค้า โดยเฉลี่ยแล้วความต้องการนี้เพิ่มขึ้นปีละ 5.6% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งและโลจิสติกส์

แนวโน้มการลงทุนเพื่อขยายพื้นที่คลังสินค้า เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5.3% ต่อปี

บริษัทและองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกให้ความสนใจในการลงทุนสร้างหรือขยายพื้นที่คลังสินค้าเพื่อใช้ในการเก็บรักษาสินค้า หรือใช้เป็นศูนย์กระจายสินค้า โดยเฉลี่ยแล้วปริมาณการลงทุนในส่วนนี้เพิ่มขึ้น 5.3% ในทุก ๆ ปี ซึ่งแสดงให้เห็นว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคลังสินค้าและโลจิสติกส์กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง

โดยอ้างอิงจากข้อมูลดังต่อไปนี้

1) การฟื้นตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย 

(IMF คาดว่าเศรษฐกิจโลกปี 2567-2568 จะเติบโต 3.0% และ 3.2% ตามลำดับ ขณะที่วิจัยกรุงศรีคาดเศรษฐกิจไทยจะเติบโต 3.6% และ 3.4% ในช่วงเดียวกัน) จะช่วยหนุนการฟื้นตัวของภาคการค้าระหว่างประเทศ ทั้งนี้ธุรกิจคลังสินค้ายังได้ปัจจัยบวกจากภาคท่องเที่ยว (คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในไทยที่ระดับ 42 ล้านคน ภายในปี 2568) ช่วยกระตุ้นความต้องการอุปโภคบริโภคสินค้า ส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของภาคการผลิตและการลงทุนในประเทศ

2) การพัฒนาโครงการในนิคมอุตสาหกรรมหนุนการลงทุนเติบโตต่อเนื่อง

โครงการพัฒนาโครงการในนิคมอุตสาหกรรมหนุนการลงทุนมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะแนวระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) ซึ่งในระยะที่ 2 (ปี 2566-2570) ที่มีการสานต่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและเส้นทางคมนาคม ที่เชื่อมโยงพื้นที่ระหว่างภูมิภาค อาทิ มอเตอร์เวย์สาย 7 ส่วนต่อขยายเชื่อมโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 ท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3 และโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินตลอดจนการเปิดศูนย์ขนส่งสินค้าในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ)

3) การเติบโตต่อเนื่องของธุรกิจ e-Commerce และโลจิสติกส์ 

Economy SEA2022 ประเมินว่าช่วงปี 2565-2568 ตลาด eCommerce ของไทยและการส่งสินค้าแบบเร่งด่วนในไทยจะเติบโตเฉลี่ย 13% และ 20% ต่อปี ตามลำดับ เอื้อให้มีการเช่าใช้พื้นที่เพื่อรวบรวมสต็อกสินค้าก่อนส่งมอบ โดยเฉพาะคลังสินค้าพร้อมจัดส่ง (E-Commerce Fulfilment) ซึ่งผู้ให้บริการ Fulfilment มีแนวโน้มขยายธุรกิจต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ 

แนวโน้มการพัฒนาคลังสินค้าที่น่าสนใจอีกประการหนึ่ง คือ “การพัฒนาคลังสินค้าขนาดเล็กในเมือง” ที่จะเกิดขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ที่ต้องการใช้พื้นที่ในเมืองและเพิ่มความรวดเร็วในการขนส่ง โดยมีการปรับใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการบริหารจัดการคลังสินค้า

อุตสาหกรรมคลังสินค้ากำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยได้รับแรงขับเคลื่อนหลักมาจากการขยายตัวของธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ต้องการพื้นที่เก็บสินค้าเพิ่มขึ้น การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ความต้องการใช้พื้นที่คลังสินค้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้จึงมีโอกาสเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่สามารถนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าได้

*อ้างอิงข้อมูล:

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา: รายงานวิจัยของธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้ระบุว่า ธุรกิจคลังสินค้าให้เช่ามีแนวโน้มเติบโตตามทิศทางเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัว โดยเฉพาะภาคส่งออกและภาคการค้าในประเทศ ส่งผลให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะรายใหญ่มีแนวโน้มลงทุนขยายพื้นที่คลังสินค้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 

(ลิงก์อ้างอิง: https://www.krungsri.com/th/research/industry/industry-outlook/logistics/warehouse-space/io/io-warehouse-space-2022

Contact Us

 

West Coast Engineering Company Limited (WCE)

🌐 www.wce.co.th

✉️ international@wce.co.th

📞 +66 (0) 65-9376283

 

Your Turn Key Engineering Solution 

We engineer your sucCEs

✉️

Purchasing Department : phaiboono@wce.co.th   |   Human Resources and Administration Department : hrmwce@wce.co.th   |   Sales Department : international@wce.co.th

Headquarters Bangkok

16 K&Y Building 5 Fl., Surasak Road, Silom Sub-District, Bangrak District, Bangkok, 10500
Mobile Phone +66 (06) 5937 6283 
Fax +66 (0) 2233 6669

Factory Bang Saphan

9/1 Moo 4, BanKlangNa – YaiPloy Road, Maeramphueng, BangSaphan, PrachuapKhiriKhan 77140
Telephone +66 (0) 3290 6112 – 119
Fax +66 (0) 3290 6120