สำหรับระดับภาคอุตสาหกรรม “งานเชื่อม” เป็นงานทักษะฝีมือช่างที่มีความต้องการในตลาดสูง เนื่องจากทุกอุตสาหกรรมในการจะผลิต ประกอบ หรือแม้แต่ซ่อมแซมชิ้นส่วนหรือโครงสร้างเครื่องจักร และโครงสร้างอาคารต่าง ๆ ก็ต้องอาศัยทักษะงานเชื่อมเป็นกำลังหลักในการทำงาน จากข้อมูลของสมาคมช่างเชื่อมในสหรัฐอเมริกา (American Welding Society) นั้นคาดการณ์ว่าภายในปี 2023 นี้ ภาคอุตสาหกรรมจะต้องการช่างเชื่อมมากกว่า 375,000 คน เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ ซึ่งหนึ่งในตัวช่วยที่มีประสิทธิภาพมากก็คือการหันไปใช้หุ่นยนตร์งานเชื่อม (Welding Robot) มาช่วยแบ่งเบาภาระภายในภาคอุตสาหกรรม
หุ่นยนต์งานเชื่อมคืออะไร?
หุ่นยนต์งานเชื่อม (Welding Robot) เป็นหุ่นยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในกระบวนการเชื่อมต่อวัสดุโลหะหรือวัสดุอื่นๆ โดยใช้กระบวนการเชื่อม เพื่อเชื่อมต่อและรวมวัสดุเหล่านั้นให้เกิดการเชื่อมแน่นและแข็งแรง หุ่นยนต์งานเชื่อมมักจะใช้แรงต้านการเคลื่อนที่และแรงสั่นเพื่อสนับสนุนกระบวนการเชื่อมและทำให้มีความแม่นยำในการวางทิศทางและความห่างของจุดเชื่อม
หุ่นยนต์งานเชื่อมมักมีระบบควบคุมอัตโนมัติที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อควบคุมกระบวนการเชื่อม โดยสามารถโปรแกรมและปรับแต่งกระบวนการเชื่อมตามความต้องการของงาน เช่น การกำหนดรูปแบบการเชื่อม ความเร็วการเชื่อม และความแม่นยำของจุดเชื่อม เป็นต้น หุ่นยนต์งานเชื่อมยังสามารถทำงานในสภาพแวดล้อมที่อันตรายหรือไม่เหมาะสมสำหรับมนุษย์ เช่น สภาพอากาศที่มีความร้อนเผา สภาพแวดล้อมที่มีเศษเหล็กที่อันตราย หรือสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของมนุษย์ในกระบวนการเชื่อม
ความสามารถของหุ่นยนต์งานเชื่อมกับการใช้ประโยชน์
โดยที่หุ่นยนต์ระบบงานเชื่อมนั้น มีความสามารถในการเชื่อมด้วยความเร็วที่มีความแม่นยำสูง เป็นไปอย่างอัตโนมัติ ช่วยลดเวลาในการดำเนินงานพร้อมกับความปลอดภัยที่มีมากขึ้นอีกด้วย หุ่นยนต์งานเชื่อมนั้นมีตั้งแต่ประเภทอัตโนมัติและกึ่งอัตโนมัติ มีรูปแบบงานเชื่อมที่หลากหลายและสามารถปรับแต่งเพิ่มเติม เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการใช้งานในรูปแบบต่าง ๆ ได้ เช่น การเชื่อมอาร์ค (Arc Welding) การเชื่อมด้วยแรงต้านทาน (Resistance Welding) การเชื่อมเฉพาะจุด (Spot Welding) การเชื่อมโดยใช้เลเซอร์ (Laser Welding) การเชื่อมโดยใช้พลาสม่า (Plasma Welding) และอื่น ๆ อย่าง TIG Welding ได้เป็นอย่างดี
ซึ่งปัจจุบันมีการใช้งานหุ่นยนต์ระบบงานเชื่อมในภาคอุตสาหกรรมอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็น การเชื่อมต่อโครงสร้างและอุปกรณ์ในอุตสาหกรรมรถยนต์ การเชื่อมต่อโครงสร้างเหล็กของอาคาร และการผลิตชิ้นส่วนสำหรับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น
จุดเด่นของหุ่นยนต์งานเชื่อมที่ต่างจากมนุษย์
ความแม่นยำและประสิทธิภาพงานเชื่อมดีขึ้น มีความรวดเร็วกว่ามนุษย์
หุ่นยนต์งานเชื่อมจะช่วยลดความเสี่ยงในการทำงานของผู้ปฏิบัติงาน ทั้งแสง ความร้อน และควัน
สามารถเข้าเชื่อมในส่วนที่มนุษย์เข้าไม่ถึง หรือเป็นพื้นที่อันตรายได้
สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องหยุดพัก
สามารถใช้ร่วมกับระบบ sensor ช่วยในการวัดและการระบุตำแหน่งในการเชื่อมแม่นยำขึ้น
เทคนิคการเชื่อมแบบนี้ ยังสามารถรับมือกับปัญหาความไม่แน่นอนในชิ้นงานได้อีกด้วย
ลดเวลาในการเชื่อมต่อและประหยัดพื้นที่ในการทำงาน
จะเห็นได้ว่าหุ่นยนต์งานเชื่อม (Welding Robot) นั้นเป็นประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก ซึ่งช่วยให้สามารถกำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความรวดเร็วและแม่นยำ ภายใต้เวลาที่ควบคุมได้ ซึ่งบริการจาก Robotic & Industrial Automation Services by WCE เรามีบริการเกี่ยวกับหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติแบบครบวจร อย่างหุ่นยนต์งานเชื่อม หุ่นยนต์จัดเรียง และหุ่นยนต์เฉพาะทางอื่น ๆ สามารถใช้งานได้ตั้งแต่ในภาคธุรกิจและผู้ประกอบการขนาดเล็ก-ใหญ่ ไปจนถึงภาคอุตสาหกรรม โดยมีผลงานมากมายการันตีในเรื่องของคุณภาพและประสบการณ์ เพื่อช่วยให้การทำงานของคุณเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว พร้อมลดภาระค่าใช้จ่ายให้ตอบสนองกับความต้องการที่หลากหลาย
Contact Us
West Coast Engineering Company Limited (WCE)
🌐 www.wce.co.th
✉️ international@wce.co.th
📞 +66 (0) 2234-9889
Your Turn Key Engineering Solution
We engineer your sucCEss
