บริษัท เวสท์โคสท์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด บริษัทด้านวิศวกรรมหนึ่งเดียวของกลุ่มเอสเอสไอ เผย 8 ปี ผลการดำเนินงานวิจัยและพัฒนาชิ้นส่วนเครื่องจักรกลให้ เอสเอสไอสูงถึง220ชิ้น คิดเป็นราคาต่างประเทศมูลค่า 97.94 ล้านบาท แต่ WCE ผลิตภายใต้งาน R&D Part ด้วยมูลค่า 48.21 ล้านบาท ช่วยลดต้นทุนนำเข้าจากต่างประเทศให้ เอสเอสไอ ได้ถึง 49.73 ล้านบาท ตอกย้ำความเป็นเลิศด้านงานวิศวกรรมการผลิต
นายสมบัติ จูงจิตรดำรงค์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เวสท์โคสท์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด หรือ WCE ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทกลุ่มเอสเอสไอ เปิดเผยว่า ตามที่ WCE ตั้งเป้าสร้างสรรค์งานวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ฝ่ายงานวิจัยและพัฒนา บริษัท เวสท์โคสท์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ก่อตั้งมามากกว่า 8 ปี วางเป้าหมายในงานวิจัยและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง วัตถุประสงค์หลักคือการทดแทนการนำเข้าให้บริษัทแม่ คือ บริษัทสหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ เอสเอสไอ และขยายไปสู่การทดแทนการนำเข้าให้บริษัทในเครือสหวิริยาและลูกค้าภายนอก ซึ่งเป็นการเพิ่มศักยภาพการผลิต การเรียนรู้วิจัยและพัฒนา รวมถึงการร่วมกันปรุงปรุงจนเกิดเป็นผลงานร่วมกันระหว่างผู้ใช้และผู้ผลิต ซึ่งเป็นเป้าหมายของ WCE ในการพัฒนาให้บริษัทเติบโตไปสู่การดำเนินการด้านวิศวกรรมขั้นสูงอย่างต่อเนื่อง
ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา (2546-2554) WCE ประสบความสำเร็จด้านการพัฒนาดังกล่าว ตอบสนอง เอสเอสไอ ทั้งในด้านคุณภาพและการลดต้นทุน โดยได้วิจัยและพัฒนาชิ้นส่วนเครื่องจักรกลให้ เอสเอสไอ ทั้งสิ้นจำนวน 220 ชิ้น คิดเป็นราคาต่างประเทศมูลค่า 97.94 ล้านบาท ผลิตเป็นงาน R&D Part มูลค่า 48.21 ล้านบาท ช่วยลดต้นทุนให้เอสเอสไอ ได้ถึง 49.73 ล้านบาท
นายสมบัติ จูงจิตรดำรงค์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ฝ่ายวิจัยและพัฒนาของ WCE จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2546 มีภารกิจในการวิจัยและพัฒนาการผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ใช้ในเอสเอสไอ โดยมุ่งเน้นไปยังชิ้นส่วนที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ มีปริมาณการใช้งานและมูลค่าสูง WCE จะเป็นผู้ดำเนินการในการวิจัยและพัฒนา ด้านวิศวกรรมจนถึงการผลิต โดย SSI เป็นผู้นำไปใช้งาน และสนับสนุนข้อมูลทางเทคนิค ติดตามผลการใช้งานเพื่อนำไปสู่การปรับปรุงในแต่ละครั้งของการทดลอง กระบวนการวิจัยและพัฒนาของ WCE แสดงรายละเอียดตามผังด้านล่าง (แทรกรูปแผนผัง)
ชิ้นส่วนเครื่องจักรกลเหล่านี้ปัจจุบันได้ใช้อยู่ในโรงงานผลิตเหล็กรีดร้อนของเอสเอสไออย่างต่อเนื่องโดยการผลิตของ WCE และมีบางชิ้นส่วนได้นำมาทำการปรับปรุงคุณภาพเพิ่มเติมตามเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อให้ได้มาถึงสิ่งที่ดีที่สุดภายใต้ข้อจำกัดที่ WCE สามารถดำเนินการได้ ตัวอย่างงานวิจัยและพัฒนาที่มีความโดดเด่นได้แก่ (แทรกรูป)
– Mandrel Coil Box เป็นการวิจัยและพัฒนาวัสดุขึ้นมาทดแทนวัสดุเดิม ให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นและมีความแข็งแรงที่อุณหภูมิสูง รวมถึงพัฒนากระบวนการผลิตทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายลงอย่างมาก
– Surface Engineering of Edger Roll เป็นการวิจัยปรับปรุงสมบัติผิวของลูกรีด Edger โดยการเลือกวัสดุเชื่อมผิวพิเศษที่มีความแข็งและทนทานต่อการแตกร้าวจากความร้อน
– Work Roll Chock เป็นการวิจัยและพัฒนาการผลิตโดยใช้กระบวนการ วิศวกรรมย้อนรอย (Reverse Engineering) เพื่อผลิตชิ้นงานขนาดใหญ่ที่ต้องมีการออกแบบงานหล่อและการกลึงกัดตัดไส
ปัจจุบันย่างเข้าสู่ปีที่ 9 ของฝ่ายวิจัยและพัฒนา WCE สะสมองค์ความรู้ในด้านการผลิตชิ้นส่วนทดแทนการนำเข้า ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย โดยกระบวนการออกแบบทางวิศวกรรมอย่างเป็นระบบและความสามารถด้านวิศวกรรมการผลิตเพิ่มขึ้นจากการใช้เทคโนโลยีในด้านต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ร่วมกับการผลิตแบบบูรณาการ ทำให้ชิ้นส่วนเครื่องจักรกลที่ผลิตขึ้นมีสมบัติในด้านต่าง ๆ ตอบสนองการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยประหยัดต้นทุนในภาพรวมได้อย่างมาก ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยและพัฒนาของ WCE ยังได้ดำเนินการด้านความร่วมมือกับสถาบันชั้นนำในการแลกเปลี่ยนและสนับสนุนองค์ความรู้ระหว่างกันเพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ WCE มีผลงานที่มีมาตรฐานอ้างอิงและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง นับเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ WCE ไม่เคยหยุดความมุ่งมั่น ทำสิ่งที่ดีกว่าสำหรับลูกค้าทั้งภายในและภายนอก เพื่อเป้าหมายสู่ความเป็นเลิศในงานวิศวกรรม สร้างสรรค์งานที่ตอบสนองความต้องการให้ลูกค้าได้อย่างสูงสุด”
Contact Us
West Coast Engineering Company Limited (WCE)
🌐 www.wce.co.th
✉️ international@wce.co.th
📞 +66 (0) 2234-9889
Your Turn Key Engineering Solution
We engineer your sucCEss